สีที่ติดทนและสดใสกำเนิดจากการผสมผสานอย่างลงตัวของเม็ดสี แต่งแต้มรอยยิ้มของผู้หญิงมาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี

วันนี้ Rouge Dior ได้รับการพัฒนาขึ้นในสูตรใหม่เพื่อมอบสีกูตูร์ที่โดดเด่นและเปล่งประกายยิ่งขึ้น โดยไม่กระทบต่อความสบายยาวนาน มาใน 4 เนื้อสัมผัส ได้แก่ ซาติน แมตต์ เมทัลลิกและเวลเวท

เมคอัพที่ถนอมริมฝีปากด้วยสูตรที่อุดมด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ:

• ดอกโบตั๋นสีแดง หนึ่งในดอกไม้โปรดของคริสเตียน ดิออร์ มีคุณสมบัติในการปกป้อง ช่วยรักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของริมฝีปากเพื่อให้สว่างสดใสตามธรรมชาติ และยังช่วยเสริมความเปล่งปลั่งของลิปสติก
• สารสกัดจากดอกทับทิมทำงานอย่างล้ำลึกและช่วยปรับสภาพผิวริมฝีปากโดยรวมเพื่อให้ริมฝีปากดูเนียนนุ่ม ร่องและเส้นต่างๆ จะแลดูจางลง และสีจะเด่นชัดกว่าที่เคย
• เชียบัตเตอร์ช่วยเสริมพลังการปกป้องของสารสกัดจากดอกไม้ พร้อมมอบการบำรุงอย่างเข้มข้น ริมฝีปากจะแลดูเรียบเนียน ให้คุณมั่นใจได้ว่าจะทาลิปสติกได้อย่างสม่ำเสมอ

ในฐานะสมาชิก Union for Ethical BioTrade ดิออร์มุ่งมั่นในการจัดหาส่วนผสมที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติและชุมชน

75 เฉดสีใหม่ รวมถึงไอคอนทั้ง 4:

• 999 Velvet: สีแดงเข้มสุดหรูหราเหนือกาลเวลา เลข 9 ทั้งสามมีที่มาจากลิปสติกสองรุ่นแรกที่เปิดตัวโดยคริสเตียน ดิออร์ เลข 9 และ 99 มีให้เลือกในฟินิช Rouge Dior ทั้ง 4 แบบ
• 100 Forever Nude Look: การสร้างสรรค์ครั้งใหม่ของ 1947 New Look greige สีที่คริสเตียน ดิออร์ สร้างสรรค์ขึ้นเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสีเทากับสีเบจ เป็นสีนู้ดร่วมสมัยที่สมบูรณ์แบบ
• 080 Red Smile: สีแดงเข้มข้นเจิดจรัส เป็นการสร้างสรรค์หนึ่งในสีแดงเฉดแรกของดิออร์ในปี 1950 ขึ้นใหม่
• 525 Forever Chérie: สีโรสวูดส์อ่อนที่ปลุกความรักของคริสเตียน ดิออร์ ที่มีต่อผู้หญิงและมิวส์ของเขา

1. ใส่รีฟิล Rouge Dior ลงในช่องใส่ลิปสติก Rouge Dior แทนที่ลิปสติกที่หมด
2. ทาลิปบาล์ม Rouge Dior เพื่อเป็นเบสให้ความชุ่มชื้น
3. วาดเส้นขอบปากด้วย Dior Contour
4. จากนั้น ทา Rouge Dior ด้วย Backstage Lip Brush โดยเริ่มจากกึ่งกลางริมฝีปากแล้วค่อยๆ ออกด้านข้าง เพื่อผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอและดูสมบูรณ์แบบ
5. หากต้องการผลลัพธ์สีที่โดดเด่นยิ่งขึ้น ให้ทาลิปสติกลงบนริมฝีปากโดยตรง