บริการแกะสลัก: ประสบการณ์ที่ล้ำค่าไม่เหมือนใคร
น้ำหอม J’adore Eau De Parfum
น้ำหอมจาดอร์ ที่รวบรวมกลิ่นดอกไม้ที่สวยที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก
น้ำหอม J’adore Eau De Parfum
น้ำหอมจาดอร์ ที่รวบรวมกลิ่นดอกไม้ที่สวยที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก
น้ำหอม J’adore Eau De Parfum เป็นน้ำหอมกลิ่นดอกไม้ของผู้หญิงที่ดีเลิศจาก Dior ช่อดอกไม้ที่ประดิษฐ์ขึ้นอย่างประณีตทุกรายละเอียดเสมือนดอกไม้ที่ได้รับการสรรสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เอสเซนส์ของกระดังงาให้กลิ่นดอกไม้ที่มีความเป็นผลไม้และเอสเซนส์ของดอกกุหลาบดามัซก์ จากประเทศตุรกีผสมผสานกับวัตถุดิบหายากอย่างดอกมะลิแกรนดิฟรอลัม จากเมืองกราซ และดอกมะลิลาอินเดียที่มีกลิ่นผลไม้และให้ความรู้สึกเย้ายวน
“ J’adore เป็นกลิ่นหอมแสนพิเศษ เนื่องจากสามารถสร้างความเย้ายวนใจได้อย่างไม่ต้องพยายาม ภายใต้ความมีเอกลักษณ์ของกลิ่นดั้งเดิม
น้ำหอมจาดอร์ให้ความรู้สึกเย้ายวน แต่ไม่แรงจนเกินไป เป็นองค์ประกอบที่นำความแตกต่างมาผสมาผสานกันอย่างลงตัว เปลี่ยนกลิ่นดอกไม้อันเป็นเอกลักษณ์ ให้กลายเป็นการรวมตัวของความดึงดูด ความทรงเอกลักษณ์ และความลึกลับ น่าค้นหา J'adore ได้สรรสร้างดอกไม้ที่ไม่มีอยู่จริง "
ขวดบรรจุของน้ำหอม J'adore ชูโรงความเป็นผู้หญิงเช่นเดียวกับน้ำหอมภายใน อวดโฉมขวดทรงคนโทโบราณสร้างสรรค์โดยคริสเตียน ดิออร์ เสมือนประดับด้วยสร้อยคอของชนเผ่ามาไซอันโด่งดัง ราวกับอัญมณีที่ร่ายรำอยู่บนลำคอของสตรี
ให้ความรู้สึกเย้ายวน แต่ไม่แรงจนเกินไป เป็นองค์ประกอบที่นำความแตกต่างมาผสมาผสานกันอย่างลงตัว เปลี่ยนกลิ่นดอกไม้อันเป็นเอกลักษณ์ ให้กลายเป็นการรวมตัวของความดึงดูด ความทรงเอกลักษณ์ และความลึกลับ น่าค้นหา J'adore ได้สรรสร้างดอกไม้ที่ไม่มีอยู่จริง ""
จาก Dior Perfumer-Creator
เอสเซนส์กระดังงาจากโคโมโร
ดอกกระดังงาสดที่เจริญเติบโตในหมู่เกาะโคโมโร ผ่านการกลั่นด้วยไอน้ำ เพื่อให้ได้เอสเซนส์ที่ใช้ในการปรุงน้ำหอม ซึ่งเป็นส่วนประกอบของน้ำหอมนานาชนิด กระดังงาผสมผสานเข้ากับกลิ่นดอกไม้ชนิดอื่นๆได้เป็นอย่างดี เป็นองค์ประกอบของความหรูหรา กลมกล่อมและความมีเอกลักษณ์ แสดงถึงช่อดอกไม้อันเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกมากมาย์ในกลิ่นของ J'adore
เอสเซนส์ดอกกุหลาบดามัซก์
ดอกกุหลาบดามัซก์มีถิ่นกำเนิดในตุรกีและบัลแกเรีย ใช้เป็นเอสเซนส์หรือหัวน้ำหอม เป็นส่วนประกอบสำคัญของน้ำหอม ซึ่งแสดงถึงความเป็นตัวตนของกลิ่น J'adore
ดอกมะลิลา และดอกมะลิเมืองกราซ
สถานที่ที่ได้รับการเลือกโดยคริสเตียน ดิออร์ ภูมิภาคเมืองกราซเป็นดินแดนแห่งความอุดมสมบูรณ์ ที่ครอบครองไว้ซึ่ง ดอกมะลิแกรนดิฟรอลัม แห่งกราซ ดอกไม้แสนพิเศษ ที่เก็บเกี่ยวในช่วงรุ่งสาง ซึ่งรวบรวมเอาความเป็นดอกไม้ที่ ""สมบูรณ์แบบ"" และเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาเอกลักษณ์ของความยั่วยวนที่ไม่มีใครเทียบได้ใน J'adore Eau de Parfum
J'adore Eau de Parfum รวบรวมดอกไม้ที่สวยที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก
ดอกกระดังงาให้กลิ่นของความเป็นผลไม้ มอบความแปลกใหม่ในสไตล์ Fruity Floral
ดอกกุหลาบ Damascus จากตุรกีให้ความละมุนและนุ่มนวล
ดอกมะลิ Grandiflorum จากเมืองกราซ ให้กลิ่นสดใสแบบแอปริคอทและแยม
ดอกมะลิลาอินเดียที่มาพร้อมกับกลิ่นอบอุ่นแบบดอกส้ม
ดอกซ่อนกลิ่นอินเดียที่มีสีขาวสวยงามชวนหลงใหล
ขวดบรรจุของ J'adore ชูโรงความเป็นผู้หญิงเช่นเดียวกับน้ำหอมภายใน นอกจากจะอวดโฉมส่วนเว้าโค้งด้วยขวดทรงคนโทโบราณสร้างสรรค์โดยคริสเตียน ดิออร์ ประดับด้วยสร้อยคอเผ่ามาไซที่มีชื่อเสียง ราวกับอัญมณีที่ร่ายรำอยู่บนลำคอของสตรี
ขั้นตอนกิจวัตรเพื่อกลิ่นที่เข้มข้นและติดทน:
1. ทา J'adore Beautifying Body Milk
2. ฉีดสเปรย์ J'adore eau de parfum ตามจุดชีพจร
3. เพิ่มประสิทธิภาพความหอมด้วย J'adore dry body oil
ช่อดอกไม้อันเป็นเอกลักษณ์ของ HOUSE OF DIOR
J’adore eau de parfum มอบความสมดุลแห่งศิลปะ โดยดอกไม้แต่ละดอกแสดงออกด้วยความเย้ายวนและความสดชื่น